| |||||
Apple ประกาศราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus อย่างเป็นทางการแล้วครับ โดยบนเว็บไซต์ Apple Online Store ได้เผยราคา iPhone 6 เครื่องเปล่า เริ่มต้นที่ 24,900 บาท ส่วน iPhone 6 Plus เครื่องเปล่า เริ่มต้นที่ 28,900 บาท ซึ่งถือว่า แพงกว่า ราคา iPhone 5S ตอนเปิดตัว 1,000 บาท
โดยในวันนี้ (24 ตุลาคม 2557) ทางโอเปอร์เรเตอร์ 3 ค่ายหลักในไทย ได้แก่ TrueMove H, dtac และ AIS ได้เปิดพรีออเดอร์ทั้ง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus อย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนทาง Apple Online Store จะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ พร้อมกับค่ายมือถือในไทยครับ
มาดูสรุป ราคา iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในไทยกันว่า ทั้ง 3 ค่ายอย่าง dtac, AIS และ TrueMove H กับ Apple Store รวมถึงเปรียบเทียบกับ ราคาเครื่องหิ้ว มาบุญครอง กันว่า แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
** ราคาจากโอเปอร์เรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย คือราคาเครื่องเปล่า
หลังจากที่ Apple Online Store รวมไปถึง โอเปอร์เรเตอร์ 3 ค่ายในไทย และร้านตัวแทนจำหน่าย ได้เปิดขาย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่า iPhone 6 นั้น ยังคงมีสินค้าให้เลือกจับจองตามปกติ ในขณะที่ iPhone 6 Plus ความจุ 64 GB และ 128 GB ทุกสี ของขาดตลาดตามคาด เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากนั่นเอง แต่ล่าสุด ร้านค้าต่างๆ ในมาบุญครอง ได้ประกาศราคา iPhone 6 / iPhone 6 Plus เครื่องศูนย์ MBK ออกมาแล้ว ถือว่า มีราคาแรงกว่า เครื่องศูนย์ Apple กับทางค่ายเล็กน้อย แต่ถือว่า รอรับเครื่องได้เลย และมีประกันจากทางศูนย์ไทยเช่นเดียวกัน ถือว่า เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหา iPhone 6 / iPhone 6 Plus เครื่องศูนย์ อยู่ในตอนนี้ครับ
โปรโมชั่น iPhone 6 / iPhone 6 Plus จาก TrueMove H
สำหรับ TrueMove H นั้น ถือว่า เป็นเจ้าแรกที่มีการประกาศ ราคา และวันวางจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกมาก่อนเจ้าอื่นๆ โดยจะเปิดพรีออเดอร์ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในวันที่ 24 ตุลาคม จำหน่ายอย่างเป็นทางการ 31 ตุลาคม 2557 ส่วนโปรโมชั่น และแพ็กเกจ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จาก TrueMove H เป็นดังนี้ครับ
โปรโมชั่น iPhone 6 / iPhone 6 Plus จาก dtac
ล่าสุด ทางค่ายสีฟ้าอย่าง dtac ได้เผย โปรโมชั่น และ แพ็กเกจ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกมาแล้ว ซึ่งมีให้เลือกหลายแพ็กเกจด้วยกัน ดังนี้
โปรโมชั่น iPhone 6 / iPhone 6 Plus จาก AIS
สำหรับ AIS ถือว่า มีโปรโมชั่นและแพ็กเกจน่าสนใจมากทีเดียวครับ โดยเคาะราคาแพ็กเกจต่ำสุด อยู่ที่ 350 บาท สามารถใช้ 3G ได้ไม่จำกัด (สูงสุด 2 GB) พร้อม AIS Wi-Fi อีกด้วย โดยแพ็กเกจ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จาก AIS เป็นดังนี้ครับ
|
วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
Apple - iPhone 6
Apple iPhone 5s
Apple iPhone 5s - แอปเปิ้ล
ขนาด: 123.8 × 58.6 × 7.6 มม.
น้ำหนัก 112 กรัม
* ข้อมูลมือถือเปิดตัวล่วงหน้า [ โปรดอ่าน ]
- Preliminary information -
- Preliminary information -
- เปิดตัวครั้งแรก 11 กันยายน 2013 (สยามโฟนฯ)
- สถานะ มีวางจำหน่ายในประเทศไทย
- วางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2013 (กันยายน 56) ราคามือถือ Apple iPhone 5s
- ราคาเปิดตัว 24,500 บาท (กันยายน 56)
- ราคาล่าสุด 19,900 บาท (ปรับปรุง 2 เดือนที่แล้ว)
- เครือข่าย
- GSM 850/900/1800/1900 MHz
- UMTS 850/900/2100 MHz - เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล
- 2G: EDGE/GPRS
- 3G: HSPA+
- 4G: LTE DL - ใช้งาน Nano-SIM
- สมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือพร้อมระบบปฏิบัติการ)
- จอแสดงผล Retina Display 16 ล้านสี
- ระบบสัมผัส Multi-Touch
- กว้าง 4 นิ้ว (แนวทะแยง)
- ความละเอียด 640 x 1136 พิกเซล (326 ppi)
- Capacitive
- Corning Gorilla Glass
- ป้องกันรอยนิ้วมือ (Anti-fingerprint display coating)
- ป้องกันรอยขีดข่วนบนหน้าจอ (Scratch-resistant) - ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor)
- เซ็นเซอร์ยืนยันตัวบุคคลด้วยลายนิ้วมือ (Touch ID)
- ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ (Ambient light)
- ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer)
- ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ (Gyroscope)
- ระบบเซนเซอร์หมุนภาพ 3 แกน (Three-axis gyroscope)
- มีสีให้เลือก (Colors) : Black, Gray, Gold
- ระบบปฏิบัติการ: iOS 7
- หน่วยประมวลผล : ARM Apple A7 64-bit Dual Core
- ความเร็ว : 1.3 GHz - หน่วยความจำ 16 GB (ตัวเครื่อง)
- การหาตำแหน่ง: Assisted GPS and GLONASS
- WiFi 802.11b/g/n/a
- จุดกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบพกพา (Portable Wi-Fi Hotspot) - Bluetooth 4.0
- USB Port
- ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- รองรับบราวเซอร์ Safari
- รองรับภาษา HTML
- SMS, MMS
- อีเมล Email (IMAP, POP3, SMTP)
- ข้อความแชท Instant Messaging
- กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล (Digital Camera)
- พร้อมแฟลช Dual LED
- โฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus)
- แตะเลือกจุดโฟกัส (Touch Focus)
- โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง
- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-Tagging)
- ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection)
- โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama) - กล้องหน้า (Front Camera)
- ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- รองรับ Video Call สนทนาแบบเห็นภาพ - บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video Recording)
- ความละเอียด HD 1920 x 1080 พิกเซล
- ซูมดิจิตอล 3 เท่า (3x Digital Video Zoom) - เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player) และ วีดีโอสตรีมมิ่ง
- รูปแบบไฟล์ : MPEG-4, H.264, MOV
- รองรับวีดีโอจาก YouTube™ - เครื่องเล่นเพลง (Music Player)
- รูปแบบไฟล์ : AAC, MP3, WAV
- ยังไม่ทราบความจุ
- การใช้งานแบตเตอรี่
- เปิดรอรับสาย 3G 250 ชั่วโมง (Standby Time)
- สนทนาต่อเนื่อง 3G 10 ชั่วโมง (Talk Time)
- ใช้งาน Wi-Fi ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง
- ใช้งาน 3G ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
- ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง (Video playback time)
- ฟังเพลงต่อเนื่อง 40 ชั่วโมง (Music playback time)
Apple iPhone 4 s
iPhone 4 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Apple มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 4 เปิดตัวด้วยดีไซน์ที่หรูหราคลาสสิค สวยงามด้วยขอบ Stainless Steel จอแสดงผล Retina Display ให้ความคมชัดมากยิ่งขึ้น ภายในใส่เทคโนโลยี Three-axis Gyroscope สำหรับจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่องได้รอบทิศทาง ช่วยให้การควบคุมเกมส์แบบโมชั่นมีความสมจริงยิ่งขึ้น
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ iPhone 4 มีขนาดพอที่จะใส่ตัวเครื่องได้พอดี และมีความหนาพอที่จะใส่อุปกรณ์ต่างๆ ไว้ชั้นล่าง สิ่งที่มากับ iPhone 4 ประกอบไปด้วย หูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, สายเคเบิ้ล USB, หัวปลั๊ก 3 ขา (ไม่สามารถเสียบกับผนังบ้านของไทยได้โดยตรง ต้องนำหัวปลั๊ก Adapter มาต่ออีกที), แผ่นพับแนะนำการใช้งานเบื้องต้น, เอกสารเกี่ยวกับตัวเครื่อง, แผ่นสติ๊กเกอร์โลโก้แอปเปิ้ล (ไม่ทราบให้มาติดกับอะไร) และ มีอุปกรณ์ช่วยดึงถาดใส่ซิมการ์ดแนบมาด้วย ลักษณะคล้ายคลิปหนีบกระดาษ (สายเคเบิ้ลที่แถมมาให้ นอกจากจะใช้เชื่อมต่อโทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์แล้ว ยังใช้เชื่อมต่อกับหัวปลั๊ก เพื่อชาร์จแบตเตอรี่อีกด้วย)
iPhone 4 โดดเด่นด้วยจอแสดงผล ระบบสัมผัส Multi-Touch ความละเอียด 326 ppi (960x640 พิกเซล) กว้าง 3.5 นิ้ว เคลือบผิวด้วยวัสดุชั้นสูง แบบเดียวที่ใช้กับเฮลิคอปเตอร์ หรือ รถไฟความเร็วสูง มีความทนทานเป็นพิเศษ และ ป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหนือจอแสดงผล มีลำโพงเสียง และ เลนส์กล้องด้านหน้า สำหรับสนทนาผ่านระบบ Facetime หรือ ใช้ถ่ายภาพตนเอง นอกจากนี้ภายในยังใส่ Proximity sensor สำหรับตรวจจับระยะห่าง ช่วยเปิด/ปิดแสงไฟหน้าจออัตโนมัติในระหว่างสนทนา และยังมี Ambient light sensor สำหรับตรวจจับแสงสว่างโดยรอบ เพื่อปรับความสว่างหน้าจอให้อัตโนมัติ
ปุ่ม Home ที่ติดตั้งอยู่ด้านล่างจอแสดงผล ถือเป็นเอกลักษณ์ของโทรศัพท์ไอโฟนตั้งแต่รุ่นแรก ใช้สำหรับกดเพื่อย้อนกลับ แต่สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS 4 สามารถกดปุ่ม Home สองครั้งติดกันเพื่อสลับการใช้งานกับแอปพลิเคชั่นอื่นที่เปิดค้างไว้ หรือ เรียกว่าระบบ Multi-tasking
มุมบนมีปุ่ม Power สำหรับเปิดหรือปิดการทำงานเครื่อง โดยการกดค้างไว้ แต่ถ้ากดเพียง 1 ครั้งสั้นๆ ในระหว่างที่เปิดใช้เครื่องอยู่ จะเป็นการเปิด/ปิดหน้าจอ เพื่อล็อคการใช้งานและประหยัดพลังงานแบตเตอรี่
อีกมุมหนึ่งมีช่องเสียบชุดหูฟัง ขนาดหัวต่อ 3.5 มิลลิเมตร และข้างกันมีรูไมโครโฟนตัวที่สอง ใช้กรองเสียงสภาพแวดล้อมเพื่อให้การสนทนาชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการสนทนาผ่านระบบ Facetime ซึ่งต้องพูดคุยผ่านสปีคเกอร์โฟน
ด้านล่างมีช่องเชื่อมต่อสายเคเบิ้ลเรียกว่า Dock Connector (30 เข็ม) ประกบข้างด้วยไมโครโฟนตัวหลัก (ไมโครโฟนตัวที่สองอยู่ด้านบน) และ ลำโพงเสียง
ด้านซ้ายมือ (เมื่อหันหน้าจอเข้าหาตัว) มีปุ่มเปิด/ปิดเสียงเรียกเข้า ออกแบบมาให้กดโดยการเลื่อนซ้าย/ขวา เพื่อใช้งานได้รวดเร็ว ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่มระดับเสียง และ ปุ่มลดระดับเสียง
ด้านขวามือ (เมื่อหันหน้าจอเข้าหาตัว) มีช่องเสียบซิมการ์ด ออกแบบมาให้เรียบในระดับเดียวกับขอบ Stainless Steel มีรูขนาดเล็กสำหรับใช้เข็มจิ้มเพื่อดึงถาดใส่ซิมการ์ดออก สำหรับซิมการ์ดที่รองรับ iPhone 4 จะต้องมีขนาดเล็กกว่าปกติ เรียกว่า Micro SIM
มุมบนซ้ายของด้านหลัง ติดตั้งกล้องถ่ายรูป ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED สามารถบันทึกวีดีโอ ความละเอียด HD (720p) ความเร็วสูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที และสามารถใช้งาน Facetimeได้เช่นกัน เพื่อส่งภาพที่คุณเห็นไปให้คู่สนทนาได้รับชมไปพร้อมกับคุณ
หน้าจอหลัก แสดงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ด้วยรูปภาพไอคอน จัดวางในรูปแบบตาราง โดยมีแอปพลิเคชั่นหลักวางเรียงอยู่แถวล่างสุด ฉากหลังหรือวอลล์เปเปอร์สามารถปรับเปลี่ยนได้ และ ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั่นคือการสร้างโฟลเดอร์ เพื่อรวมแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานในลักษณะเดียวกันไว้ สะดวกในการค้นหาและเปิดใช้
ที่หน้าจอหลัก เมื่อกดปุ่ม Home หรือเลื่อนหน้าจอมาทางซ้าย จะพบกับเครื่องมือค้นหา และ ถ้าเลื่อนหน้าจอไปทางขวาก็จะแสดงไอคอนของแอปพลิเคชั่นที่แสดงไม่หมดในหน้าแรก
รูปภาพด้านบนแสดงแผงปุ่มกดตัวเลข สำหรับกดโทรออก แล้วยังมีไอคอนทางลัดที่ด้านล่าง สำหรับใช้งานด้านการโทร เช่น ประวัติการโทร, รายชื่อในสมุดโทรศัพท์ เป็นต้น
ความสามารถใหม่ในระบบปฏิบัติการ iOS 4 สำหรับ iPhone 4 นั่นก็คือรองรับระบบ Multi-tasking เพียงกดปุ่ม Home สองครั้งติดกัน ไอคอนของแอปพลิเคชั่นที่เปิดค้างไว้ ก็จะเลื่อนขึ้นมาจากด้านล่าง ผู้ใช้สามารถแตะไอคอนของแอปพลิเคชั่นที่ต้องการสลับไปใช้ได้ทันที หรือ ถ้าต้องการปิดการใช้งานแอปพลิเคชั่นนั้น ก็ให้แตะที่ไอคอนค้างไวบนขึ้นเครื่องหมาย แล้วจึงแตะที่เครื่องหมายลบ บนไอคอนที่ต้องการปิด
การกดปุ่ม Home สองครั้งติดกัน นอกจากจะเป็นการสลับใช้แอปพลิเคชั่นแล้ว ยังสามารถเลื่อนมาที่หน้าจอซ้ายมือเพื่อฟังเพลงได้อีกด้วย
Three-axis Gyroscope ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบรอบทิศทางที่ Apple นำมาใส่ไว้ใน iPhone 4 เมื่อนำมาใช้งานร่วมกับ Accelerometer ทำให้ผู้ใช้งานพบประสบการณ์ใหม่ในการควบคุมเกมส์แบบสมจริง ผู้ใช้สามารถถือ iPhone 4 แล้ว หมุนรอบตัวเองเพื่อดูฉากในเกมส์แบบรอบทิศทางสามมิติ โดยฉากในเกมส์ก็จะหมุนตามการเคลื่อนไหวตัวเครื่องไปด้วย
Facetime การสนทนาพร้อมส่งภาพจากกล้องด้านหน้า หรือด้านหลัง ไปให้คู่สนทนาได้ชมแบบสดๆ หรือเรียกว่าวีดีโอคอลล์ เพียงแต่ Facetime ไม่ต้องอาศัยเครือข่าย 3G แต่อาศัย Wi-Fi แทน วิธีการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก เพียงเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ทิ้งไว้ จากนั้นทำการโทรออกไปหาผู้รับตามปกติ (ผู้รับสายจะต้องใช้ iPhone 4 มีเชื่อมต่อ Wi-Fi เช่นกัน) ระหว่างรอรับสายให้กดปุ่ม Speaker เพื่อสนทนาผ่านลำโพง และ เมื่อมีผู้รับสายให้กดปุ่ม Facetime เพื่อเปิดใช้งานกล้อง โดยผู้ใช้ สามารถสลับการใช้งานได้ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลัง
ประโยชน์ของ Facetime นอกจากการสนทนาแบบเห็นหน้า นั่นคือการสื่อสารที่มากกว่าคำพูด เพราะผู้ใช้สามารถรับรูปถึงอารมณ์ของคู่สนทนามากกว่าฟังแต่เสียง อีกทั้งการแสดงภาพเคลื่อนไหวภาพยังทำได้ราบลื่น (ขึ้นอยู่กับความเร็วของสัญญาณ Wi-Fi ในเวลาใช้งาน) ที่สำคัญผู้ใช้ไม่ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่ม (นอกจากค่าบริการอินเตอร์เน็ต Wi-Fi)
ถ้าให้เทียบกับการสนทนารูปแบบวีดีโอคอลล์ผ่านเครือข่าย 3G ต้องยอมรับว่า Facetime เหนือกว่า ทั้งเรื่องสัญญาณ Wi-Fi ที่ครอบคลุมมากกว่า เครือข่าย 3G ค่าบริการที่ถูกกว่า และ ความเร็วในการแสดงผล
การตั้งค่าภาษาของ iphone4 ทำได้โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > ทั่วไป > นานาชาติ แล้วจะมีประเภทของภาษาต่างๆ ให้เลือกได้แก่ ภาษาที่ใช้, ภาษาที่สั่งการด้วยเสียง, ภาษาที่ใช้พิมพ์ (ไทย/อังกฤษ) และยังเพิ่มภาษาที่เราต้องการเพิ่มเติมภายหลังได้ นอกจากนั้นในส่วนนี้ยังใส่ภูมิภาคที่เราอาศัย และรูปแบบปฎิทินโดยจะแสดงผลตัวอย่างที่ด้านล่างของจอ
สำหรับการพิมพ์ iphone4 แก้ไขที่ ตั้งค่า > ทั่วไป > คีย์บอร์ด สามารถเลือกตั้งค่า ตัวพิมพ์ใหญ่อัตโนมัติ, เสนอคำอัตโนมติ, ตรวจการสะกดคำ, ใช้ Caps Locks และ คีย์ลัด สำหรับภาษาในการพิมพ์ จะมีให้เลือกภาษา ไทย, อังกฤษ (พิมพ์ในรูปแบบ QWERTY, AZERTY, QWERTZ) และสามารถเพิ่มคีย์บอร์ดสำหรับพิมพ์ภายหลังได้
ในขณะที่พิมพ์ข้อความภาษาอังกฤษเมื่อกดที่คีย์บอร์ดจะแสดงตัวอักษรที่กดเป็นตัวใหญ่ ถ้ากดค้างไว้จะแสดงอักขระของตัวอักษรนั้นๆ เมื่อพิมพ์คำๆ นึง จะมีระบบเสนอคำอัตโนมัติ ถ้าต้องการแก้ไขคำหรือประโยคให้กดค้างที่ข้อความนั้นๆ จะมีวงกลมเหมือนแว่นขยายแสดงเคอร์เซอร์ด้านหน้าของคำใช้ สำหรับกำหนดการเลือกคำเพื่อ ตัด, คัดลอก, วาง, แทนที่คำนั้นๆ
การตั้งค่าอีเมล์เข้าไปที่เพิ่มบัญชีผู้ใช้ที่เพิ่มอีเมล์ที่ต้องการ สามารถใช้งานอีเมล์พร้อมกันได้หลายอีเมล์ เช่น Microsoft Exchange, Mobileme, Gmail, Yahoo, Aol และอื่นๆ เมื่ใส่อีเมล์ที่ต้องการแล้ว จะตั้งค่าโดยจะแสดงรายละเอียด Mail, ปฎิทิน, จดบันทึก และแสดงการตั้งค่าอีเมล์ทั้งหมด เช่น แสดงข้อความล่าสุด, ฟอนต์, สำเนาถึง, ถามก่อนจะลบ, โหลดข้อความจากที่อื่น และเรียงตามประเด็น
สำหรับการตั้งค่าช่วยเหลือผู้พิการให้เข้าไปที่ ตั้งค่า > ทั่วไป > ผู้พิการ โดยแบ่งการใช้งานเป็นดังนี้
- Voice Over เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ไอโฟน4 จะทำการเปลี่ยนระบบเครื่องเป็นการตอบสนองด้วยเสียงมีวิธีใช้งานโดยเมื่อกดไปที่เมนูใด เครื่องจะทำการพูดเมนูนั้นออกมาหากต้องการเข้าเมนูนั้นๆ กด 2 ครั้งเพื่อเข้าเมนู และใช้ 3 นิ้วเลื่อนเพื่อเลื่อนหน้าสำหรับ การสะกดเสียงของเครื่องนั้นทำได้โดยเลือกเมนูที่ต้องการในช่องสี่เหลี่ยม จากนั้นใช้นิ้วเลื่อนลงเครื่องจะสะกดคำทีละตัวอักษร นอกจากนั้นสามารถปรับความเร็วของการพูด, ออกเสียงพูดขณะพิมพ์, การออกเสียงและสะกดคำ, การเปลียนระดับเสียง, อักษรเบลล์,
การออกเสียงในเว็บ และ ภาษาที่ใช้ออกเสียง - ซูม ตั้งค่าการซูมโดยใช้ 3 นิ้วแตะ 2 ครั้ง, เลื่อนหน้าจอโดยใช้ 3 นิ้วลากไปทั่วหน้าจอ และยกเลิกการซูมโดยใช้ 3 นิ้วแตะอีก 3 ครั้ง
- ปรับขนาดตัวอักษร 6 ขนาด
- เปลี่ยนสีพื้นหลังเป็นสีดำ
- ปรับเสียงโมโน
- การพูดข้อความอัตโนมัติ
- ตั้งค่าปุ่มโฮม (กด 3 ครั้งเพื่อ เปิด Voice over หรือ เปลี่ยนสีพื้นหลังเป็นสีดำ)
วิดีโอการใช้งาน Voice over
สำหรับลูกค้า Truemove เราจะมีบริการเสริมที่จะช่วยเหลือคุณได้ในหลายๆ ด้านอาทิ เช่น
Accommodation Finder : บริการค้นหาที่พักได้แก่ บังกะโล, อพาร์เมนนท์, หอพัก, โรงแรม, บังกะโล โดยสามารถค้นหาได้ตามประเภท, จังหวัด เมื่อเลือกสถานที่ที่ต้องการ เครื่องจะแสดงสถานที่ที่ใกล้กับตำแหน่งปัจจุปัน ให้เราเลือกสถานที่โดยกด Map หลังจากนั้นจะแสดงวิธีเดินทางจากตำแหน่งปัจจุปันไปยังสถานที่ที่เลือก หรือเรียก Reality เพื่อแสดงผลสถานที่ในรัศมีในรูปแบบ AR ให้เราส่อง และแสดงรายละเอียดสถานที่นั้นๆ บนแแผนที่แล้วสามารถกดไปบนแผนที่เพื่อโทร, นำทางไป, แสดงรายละเอียดการเดินทางไปสถานที่นั้นๆ และสามารถเพิ่มสถานที่ที่เลือกเป็นสถานที่โปรดได้
Thai Auto Services : บริการช่วยเหลือด้านแผนที่ยานยนต์ ประกอบไปด้วย แผนที่ปั้มน้ำมัน, ปั้ม LPG, ปั้ม NGV, โชว์รูมรถ, ศูนย์บริการรถยนต์, บริการรถเช่า, อู่ซ่อมรถ, อาคารจอดรถ, คาร์แคร์
เมื่อเลือกสถานที่ เครื่องจะแสดงสถานที่ที่ใกล้กับตำแหน่งปัจจุปันของเราในรัศมีที่กำหนด (1-5 กิโลเมตร) จากนั้นจะเลือก Map เพื่อแสดงสถานที่นั้นๆ หรือเรียก Reality เพื่อแสดงผลสถานที่ในรัศมีในรูปแบบ AR ให้เราส่อง และแสดงรายละเอียดสถานที่นั้นๆ บนแแผนที่แล้วสามารถกดไปบนแผนที่เพื่อโทร, นำทางไป, แสดงรายละเอียดการเดินทางไปสถานที่นั้นๆ และสามารถเพิ่มสถานที่ที่เลือกเป็นสถานที่โปรดได้
เมื่อเลือกสถานที่ เครื่องจะแสดงสถานที่ที่ใกล้กับตำแหน่งปัจจุปันของเราในรัศมีที่กำหนด (1-5 กิโลเมตร) จากนั้นจะเลือก Map เพื่อแสดงสถานที่นั้นๆ หรือเรียก Reality เพื่อแสดงผลสถานที่ในรัศมีในรูปแบบ AR ให้เราส่อง และแสดงรายละเอียดสถานที่นั้นๆ บนแแผนที่แล้วสามารถกดไปบนแผนที่เพื่อโทร, นำทางไป, แสดงรายละเอียดการเดินทางไปสถานที่นั้นๆ และสามารถเพิ่มสถานที่ที่เลือกเป็นสถานที่โปรดได้
Thai Going Out : บริการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป เช่น สถานที่ช็อปปิ้ง, ร้านอาหาร, โรงหนัง, สปอร์ตคลับ, ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
เมื่อเลือกสถานที่ได้แล้วจะแสดงสถานที่ที่ใกล้กับตำแหน่งปัจจุปันของเราในรัศมีที่กำหนด (1-5 กิโลเมตร)
จากนั้นจะเลือก Map เพื่อแสดงสถานที่นั้นๆ หรือเรียก Reality เพื่อแสดงผลสถานที่ในรัศมีในรูปแบบ AR ให้เราส่องและแสดงรายละเอียดสถานที่นั้นๆ บนแแผนที่แล้วสามารถกดไปบนแผนที่เพื่อโทร, นำทางไป, แสดงรายละเอียดการเดิน
ทางไปสถานที่นั้นๆ และสามารถเพิ่มสถานที่ที่เลือกเป็นสถานที่โปรดได้ นอกจากนั้นยังเลือก We Love Shopping เพื่อเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ได้
เมื่อเลือกสถานที่ได้แล้วจะแสดงสถานที่ที่ใกล้กับตำแหน่งปัจจุปันของเราในรัศมีที่กำหนด (1-5 กิโลเมตร)
จากนั้นจะเลือก Map เพื่อแสดงสถานที่นั้นๆ หรือเรียก Reality เพื่อแสดงผลสถานที่ในรัศมีในรูปแบบ AR ให้เราส่องและแสดงรายละเอียดสถานที่นั้นๆ บนแแผนที่แล้วสามารถกดไปบนแผนที่เพื่อโทร, นำทางไป, แสดงรายละเอียดการเดิน
ทางไปสถานที่นั้นๆ และสามารถเพิ่มสถานที่ที่เลือกเป็นสถานที่โปรดได้ นอกจากนั้นยังเลือก We Love Shopping เพื่อเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ได้
True Movice HD : แสดงรายการหนังที่เก็บไว้ภายใน True Movice HD เก็บไว้ภายในโปรแกรมโดยที่สามารถดูได้ทันทีโดยไม่ต้องโหลดมาเก็บในเครื่อง โดยหนังจะแบ่งออกเป็น หนังฮิต, หนังแนะนำ และแบ่งหนังตามประเภท เมื่อเลือกหนังที่ต้องการชมแล้วเราสามารถเลือกดูตัวอย่างหนัง ดูทั้งเรื่อง และ ดูฉากเด่นได้
TrueMusic HD : แสดงรายการเพลงของ TrueMusic โดยแบ่งออกเป็น เพลง, MV, รายการโปรด, ข่าวอัพเดต และค้นหา รูปแบบรายการเพลงจะแบ่งเป็น เพลงใาใหม่, เพลงฮิต และเพลงแนะนำ ส่วนประเภทของเพลงจะแบ่งเป็น เพลงไทย, อินเตอร์, เอเชีย และ เพลงจากศิลปิน AF เมื่อเลือกเพลงที่ต้องการแล้วนอกจากฟังยังสามารถเล่นซ้ำ, เล่นสุ่ม, ดูเนื้อเพลง, แสดงความเห็นในเพลงนั้นๆ และแชร์เพลงไปยัง Facebook และ Twister ที่มุมขวาบนจะมีช่องสี่เหลี่ยมใส่คำว่า Live เมื่อกดเข้าไปจะสามารถดูรายการของ TrueMusic สดๆได้ ผ่านระบบ 3G หรือ WiFi
TrueRadio HD : ฟังระบบวิทยุของ True โดยการฟังเพลงจะเป็นรูปแบบสุ่ม สามารถแบ่งการฟังเพลงออกเป็นประเภทต่างๆ ได้แก่ Easy Listening, Broken Heart Station, Classic Rock, Inter Hitz และ เพลงลูกทุ่ง ในขณะที่ฟังเพลงสามารถแสดงเนื้อเพลง, มิวสิกวิดีโอได้(ถ้ามี) นอกจากนั้นยังแชร์เพลงที่กำลังฟังผ่าน Facebook และ Twitter ได้
Truevisons on mobile : แสดงโปรแกรมรายการของ Truevisions 5 ช่องได้แก่ พรีเมียร์ลีก, Trueinside, HayHA, TNN2 และ TrueMusic โดยจะแสดงรายการ 3 วัน (เมื่อวาน, วันนี้, พรุ่งนี้) ถ้าพบรายการที่ต้องการรับชมสามารถตั้งเสียงเตือนเมื่อรายการนั้นได้ โดยแบ่งเป็น 4 ช่วงเวลาได้แก่ เมื่อออกอากาศ, ล่วงหน้า 5 นาที, ล่วงหน้า 15 นาที, ล่วงหน้า 30 นาที และสามารถดูรายการที่กำลังเล่นอยู่ในช่วงนั้นๆ ของทั้ง 5 ช่องได้
iphone4 ใช้แผนที่ของ Google map แสดงแผนที่ในรูปแบบ แผนที่, ดาวเทียม และผสมทั้ง 2 รูปแบบ ด้านบนมีช่องสำหรับค้นหาสถานที่ที่ต้องการ หรือ เลือกเส้นทางสำหรับของเส้นทางการเดินทาง ซึ่งจะแสดงวิธีเดินทางพร้อมรายละเอียดแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง 3 รูปแบบได้แก่ การขับรถ, รถเมล์ และ เดินเท้า
เมื่อเข้า iPod หน้าแรกจะแสดงเมนูเพลงจาก iTunes U, นักแต่งเพลง, พ็อดคาสท์, รวมเพลง, วิดีโอ, หนังสือเสียง และ อัลบั้ม เมื่อเลือกเพลงที่ต้องการแล้วภายใน iPod ด้านบนเป็นปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มเล่นในอัลบั้ม, ถัดลงมาเป็นแถบเพลงที่จะแสดงระยะเวลาการเล่น, เล่นซ้ำ, เล่นสุ่มสร้างเพลย์ลิสต์, ด้านล่างเป็นปุ่มควบคุมเพลง (เล่นก่อนหน้า, เล่น/พัก, ถัดไป) และปรับระดับเสียง ถ้าหมุนเครื่องเป็นแนวนอนจะแสดงเพลงทั้งหมดพร้อมปกอัลบั้มเลือกเพลงโดยเลื่อนนิ้วไปทางซ้าย-ขวา ถ้าเข้าเมนูวิด๊โอจะแสดงวิดีโอตามที่แบ่งไว้ เช่น มิวสิกวิด๊โอ, พ็อคคาสท์ เมื่อเลือกวิดีโอที่ต้องการ ในขณะที่ดูวิดีโอจะปรับภาพได้ 2 ขนาดคือ เล่นตามสัดส่วนเดิม และ เล่นเต็มจอ
กล้องถ่ายรูปมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (2592x1936 พิกเซล) ตัวกล้องสามารถตั้งค่าโฟกัสอัตโนมัติ หรือ โฟกัสเมื่อสัมผัสบนหน้าจอ ตั้งค่าไฟแฟลช (อัตโนมัติ, ปิด, เปิด) เปิด/ปิดระบบ HDR (High Density Rang) และเปลี่ยนไปใช้กล้องหน้า ความละเอียด VGA (640 x 480 พิกเซล) และมีปุ่มลัดใช้เลื่อนปรับไปใช้งานกล้องวิดีโอความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, 30 เฟรมต่อวินาที โหมดเปิด/ปิดไฟช่วยถ่าย และสลับไปใช้กล้องหน้าความละเอียด VGA (640 x 480 พิกเซล) เมื่อถ่ายภาพแล้วส่งอีเมล์ (ในขณะส่งสามารถเลือกขนาดรูปที่ส่งได้ 4 ขนาด คือ เล็ก, กลาง, ใหญ่ และต้นฉบับ), MMS, ตั้งภาพในรายชื่อ และตั้งเป็นภาพพื้นหลัง ส่วนวิดีโอสามารถส่งผ่านอีเมล์, MMS และอัพโหลดผ่าน Youtube
ขอขอบคุณ : บริษัท ทรูมูฟ จำกัด - โทร. 0 2900 9000
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)